4 ตัวชี้วัดสำคัญ (KPIs) ที่โรงแรมต้องวัดผลจากเว็บไซต์จองห้องพัก

4 ตัวชี้วัดสำคัญ (KPIs) ที่โรงแรมต้องวัดผลจากเว็บไซต์จองห้องพัก

ในยุคดิจิทัลที่การตลาดออนไลน์คือหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ การมีเว็บไซต์จองห้องพัก (Booking Website) ที่สวยงามอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการวัดผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในการดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดจอง

 

การวัดผลที่ดีจะช่วยให้คุณมองเห็นจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการปรับปรุง วันนี้เราจะมาเจาะลึก 4 ตัวชี้วัด (KPIs) สำคัญที่โรงแรมควรจับตามอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยอดจองตรงให้สูงขึ้น

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1.

อัตราการเข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic)

2.

อัตราการจองห้องพัก (Booking Conversion Rate)

3.

มูลค่าการจองเฉลี่ย (Average Booking Value - ABV)

4.

อัตราการยกเลิกการจอง (Cancellation Rate)

1. อัตราการเข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic)

ตัวชี้วัดแรกและพื้นฐานที่สุดคือ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ การเข้าชมที่สูงแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของคุณ เช่น SEO (Search Engine Optimization) หรือการโฆษณาผ่าน Google Ads ทำงานได้ดีและสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้

 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด หรือที่เราเรียกว่า Total Sessions คือตัวเลขแรกที่คุณควรจับตามอง เพราะมันคือภาพรวมว่ามีคนสนใจเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณมากแค่ไหน ส่วน Users จะบอกจำนวนผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งช่วยให้คุณรู้ว่าแท้จริงแล้วมีคนกี่คนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ

 

และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการทำความเข้าใจที่มาของผู้เข้าชม หรือ Traffic Sources ว่าพวกเขามาจากช่องทางไหนบ้าง เช่น มาจากการค้นหาทั่วไป (Organic Search) บน Google, มาจากโซเชียลมีเดียที่คุณโปรโมทอยู่ หรือมาจากการโฆษณาแบบเสียเงิน (Paid Ads)

 

การรู้ว่าผู้เข้าชมมาจากไหนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณทางการตลาดได้อย่างชาญฉลาด หากคุณพบว่าผู้เข้าชมส่วนใหญ่มาจาก Facebook คุณก็สามารถทุ่มงบไปกับการทำการตลาดบน Facebook ได้มากขึ้น หรือถ้าคุณลงทุนกับการทำ SEO แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็หมายความว่าคุณควรให้ความสำคัญกับช่องทางนี้ต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ทำให้คุณสามารถโฟกัสไปที่ช่องทางที่สร้างผลลัพธ์ได้ดีที่สุดและเพิ่มโอกาสในการได้ยอดจองตรงได้มากขึ้นนั่นเอง

2. อัตราการจองห้องพัก (Booking Conversion Rate)

อัตราการจองคือ ตัวชี้วัดที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันคือตัวเลขที่บอกคุณว่าจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด มีลูกค้ากี่คนที่ตัดสินใจจองห้องพักกับคุณจริง ๆ ตัวเลขนี้เป็นหัวใจสำคัญที่บ่งบอกประสิทธิภาพของเว็บไซต์และระบบจองของคุณ โดยมีสูตรคำนวณดังนี้ 


Booking Conversion Rate = (จำนวนการจองที่สำเร็จ ÷ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด) x 100

 

หากเว็บไซต์ของคุณมีคนเข้าชมเยอะ แต่กลับมีอัตราการจองต่ำ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีบางอย่างผิดปกติที่ทำให้ลูกค้าลังเลหรือเปลี่ยนใจไม่จอง ยกตัวอย่างเช่น
– ราคาห้องพักอาจไม่น่าดึงดูดพอเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
– ขั้นตอนการจองอาจซับซ้อนยุ่งยากเกินไปจนทำให้ลูกค้ารู้สึกท้อใจ
– เว็บไซต์ของคุณอาจโหลดช้าหรือใช้งานได้ไม่สะดวกบนมือถือ
– รูปภาพและข้อมูลของโรงแรมก็อาจไม่ชัดเจนหรือไม่น่าสนใจพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า


การตรวจดูและปรับปรุงปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มอัตราการจองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้กลายเป็นลูกค้ารายได้จริง ๆ

3. มูลค่าการจองเฉลี่ย (Average Booking Value - ABV)

ตัวชี้วัดนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าลูกค้าแต่ละรายสร้างรายได้ให้โรงแรมของคุณเฉลี่ยเท่าไหร่ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ราคาห้องพักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการเสริมอื่น ๆ ที่ลูกค้าซื้อเพิ่มด้วย

 

ABV = รายได้ทั้งหมดจากการจอง ÷ จำนวนการจองทั้งหมด

 

การให้ความสำคัญกับ ABV มีความสำคัญมาก เพราะคุณไม่จำเป็นต้องหาลูกค้าใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่สามารถเพิ่มรายได้ได้ง่าย ๆ ด้วยการกระตุ้นให้ลูกค้าที่กำลังจะจองห้องพักเลือกซื้อบริการเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เสนอการอัปเกรดห้องพักที่หรูหรากว่าเดิมในราคาพิเศษ หรือจัดทำแพ็กเกจที่รวมอาหารเช้าหรือดินเนอร์สุดโรแมนติก รวมถึงบริการทัวร์หรือสปาในโรงแรม การนำเสนอข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ตั้งแต่ในขั้นตอนการจอง จะช่วยเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายต่อลูกค้าให้สูงขึ้น และทำให้โรงแรมของคุณมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าเลย

4. อัตราการยกเลิกการจอง (Cancellation Rate)

ถึงแม้ว่าการยกเลิกการจองจะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าโรงแรมของคุณมีอัตราการยกเลิกที่สูงเกินไปก็ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบหาคำตอบทันที โดยคุณสามารถวัดผลได้จาก

 

Cancellation Rate = (จำนวนการยกเลิกทั้งหมด ÷ จำนวนการจองทั้งหมด) x 100

 

อัตราการยกเลิกที่สูงอาจชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการยกเลิกที่ไม่ยืดหยุ่นหรือยังไม่ชัดเจน ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่มั่นใจในการจอง หรือเป็นไปได้ว่า ราคาของโรงแรมบนช่องทางอื่นถูกกว่า ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปจองกับที่อื่น หรืออาจเกิดจาก การสื่อสารระหว่างโรงแรมและลูกค้าที่ไม่ดีพอ จนทำให้ลูกค้าตัดสินใจยกเลิกในที่สุด 

 

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของการยกเลิกจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงนโยบายและกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนการยกเลิก และช่วยรักษาความมั่นคงของยอดจองไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การวัดผลด้วย KPI ทั้ง 4 ตัวนี้จะช่วยให้โรงแรมของคุณไม่เพียงแค่มีเว็บไซต์จองห้องพักที่สวยงาม แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน การวัดผลและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล


หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์โรงแรมที่รองรับการวัดผลดังกล่าว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิกที่นี่

แชร์บทความ

บทความล่าสุด